วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

การประยุกต์ใช้ ASSURE Model กับการสอนในรายวิชาษาไทย
ในหัวข้อหลักภาษา เรื่อง ชนิดของประโยค
 

การวิเคราะห์และออกแบบการใช้สื่อตามหลักของ Assure
      ASSURE Model เป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้ผู้สอนเกิดความมั่นใจที่จะใช้สื่อการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้สูงสุดตามความสามารถของแต่ละคน
A : Analyze Learner Characteristic
S : Stat Objective
S : Select, Modify or Design Materials
U : Utilize Materials
R : Require Learner Response
E : Evaluation

การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน (Analyze Learner Characteristics)
1.       ลักษณะทั่วไป
วิเคราะห์ลักษณะทั่วไปของกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยคิดเฉลี่ยจำนวนนักเรียนจะมี 25 คนต่อชั้นเรียนอายุ เฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 ปี ระดับความรู้พื้นฐานอยู่ใกเกณฑ์ปานกลาง โดยส่วนมากผู้ปกครองมีอาชีพ ค้าขาย ฐานะทางครอบครัวอยู่ในระดับปานกลาง และความสนใจพิเศษจะเป็นเรื่องของสื่อและเทคโนโลยี เกมคอมพิวเตอร์
2.       ลักษณะเฉพาะ
วิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่านักเรียนมีความรู้และทักษะพื้นฐานในเนื้อหาที่จะสอนอยู่ในระดับปลานกลาง และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษาวรรณคดีไทย
      
 การกำหนดวัตถุประสงค์ (State Objectives)
1. พุทธิพิสัย
1.1 การสร้างประโยคในแต่ละชนิด
 1.2 การวิเคราะห์ประโยคแต่ละชนิด
2. จิตตพิสัย
2.1 เห็นคุณค่าของวิชาภาษาไทย
2.2 ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีวินัยในตนเอง
2.3 มีจิตสาธารณะ
3. ทักษะพิสัย
3.1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจงง่ายๆ
3.2 ใช้ภาษา น้ำเสียง กิริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาททางสังคมไทย
3.3 สามารถเข้าใจความหมายของประโยตที่พูดได้
3.4 มีทักษะในการใช้ภาษา
  
การเลือก ดัดแปลง หรือออกแบบสื่อใหม่ (Select, Modify, or Design Materials)
ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นนักเรียนที่อยู่ในวัยที่ค่อนข้างเบื่อง่ายและชอบอะไรแปลใหม่ ความจำสั้น สมาธิสั้น ไม่ค่อยสนใจการเรียนการสอนผู้สอนจึงควรพัฒนาการสอนอยู่สม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย จึงดำเนินการดังนี้
1. การเลือกจากสื่อที่มีอยู่แล้ว
                1. ภาษาพูด (verbal) เช่น คำพูด
สามารถถ่ายทอดและสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมา มีการตอบกลับในทันทีถ่ายทอดความรู้สึกได้อย่างถูกต้อง และต้องระวังในการใช้คำพูดและวิเคราะห์ถึงผลที่จะตามมาอย่างรวดเร็ว อาทิ การถาม-ตอบ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของประโยค
                2. ภาษาท่าทาง (nonverbal)
2. สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ
-  การอภิปรายกลุ่ม
-  การฝึกปฏิบัติ
-  การนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
การปรับปรุง หรือดัดแปลงสื่อที่มีอยู่แล้ว
             นำเนื้อหาการสอนมาโยงความสัมพันธ์เพื่อง่ายต่อการเข้าใจ โดยการนำเสนอบทเรียนโดยใช้สื่อวิดีโออนิเมชั่น ที่เร้าความสนใจของนักเรียน โดยให้ผู้เรียนได้ดูและอธิบาย จะทำให้ผู้เรียนสนใจมากกว่าการอธิบายตามหนังสือ
การออกแบบสื่อใหม่
             สรุปเนื้อหา นำเสนอแบบใช้วิดีโออนิเมชั่น ที่มีทั้งภาพ สี เสียง และการเคลื่อนไหว เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน แล้วใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องฉายโปรเจกเตอร์ในห้องเรียนเพื่อฉายให้ผู้เรียนได้ดู เข้าใจอย่างทั่วถึงและชัดเจน อีกทั้งแจกใบวามรู้เรื่องชนิดของประโยคให้ผู้เรียนด้วย
         
 การใช้สื่อ (Utilize Materials)
            ขั้นตอนการใช้สื่อการเรียนการสอน มีขั้นตอนที่สำคัญอยู่ 4 ขั้นตอน คือ
1. ดูหรืออ่านเนื้อหาในสื่อ และทดลองใช้
    โหลดเนื้อหาที่จะนำมาประกอบการสอน และวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียที่ผู้เรียนจะได้รับ
-           วิดีโออนิเมชั่นประกอบการสอนเรื่องชนิดของประโยค
-           ใบความรู้เรื่องชนิดของประโยค
2. เตรียมสภาพแวดล้อม และจัดเตรียมสถานที่
-           พิจารณาความเหมาะสมของสื่อต่อเนื้อหาที่เลือกสอน
-           จัดรูปแบบการสอนในลักษณะการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน
-           จัดสถานที่ที่เอื้อต่อการเสวนากลุ่ม
-           สร้างสถานให้ผู้เรียนร่วมกันแก้ปัญหา จากแบบฝึกหัดที่ครูแจก
3. เตรียมผู้เรียน
             แจ้งผู้เรียนให้ทราบล่วงหน้าว่าในคราวต่อไปเราจะมีการเรียนการสอนในเรื่องชนิดของประโยต ในรูปแบบการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันในชั้นเรียนกัน โดยจะมีสื่อการสอนให้นักเรียนศึกษาก่อน และให้ผู้เรียนเตรียมความพร้อมโดยการทำความเข้าใจล่วงหน้า หรืออาจเตรียมของประกอบการเรียน      
4. การนำเสนอ และควบคุมชั้นเรียน
นำเสนออย่างมีขั้นตอน โดยกล่าวถึงประโยคที่ผู้เรียนใช้ในชีวิตประจำวันและถามถึงความแตกต่างของประโยคต่าง ๆ ที่นักเรียนยกตัวอย่างมาก่อน เพื่อประเมิณความรู้และวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน จากนั้นสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนให้เข้ากับเรื่องที่จะสอน และใช้สื่อในการเรียนการสอนเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน ต่อมาให้ผู้เรียนสังเคราะห์เนื้อหาเมื่อสิ้นสุดคาบเรียน

การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน(Require Learner Response )
กำหนดการตอบสนองของผู้เรียนจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน จากการตอบคำถามและการเรียนรู้ร่วมกันของผู้เรียน และกำหนดการตอบสนองต่อเนื้อหาความรู้ของผู้เรียนต่อบทเรียน จากแบบทดสอบและแบบฝึกหัดที่ผู้เรียนทำ

 การประเมิน (Evaluation)
            จะประเมินหลังจากใช้สื่อการสอนทันที ว่ามีประสิทธิภาพเพียงใด ผู้เรียนสามารถบรรลุวัตถุประสงค์มากน้อยแค่ไหน ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ และประเมินอีกครั้งคือ การสังเกตว่าผู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจเรื่องชนิดของประโยคไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร การประเมินกระบวนการสอน จะประเมินจากแบบทดสอบและการสังเกตความสนใจของผู้เรียนว่ามีความสนใจ ตั้งใจ ใฝ่เรียนใฝ่รู้ มีวินัยในตนเอง และเห็นคุณค่าของวิชาภาษาไทยเพียงใด การประเมินสื่อและวิธีการเรียนการสอน จะประเมินโดยการสอบถามความเข้าใจของผู้เรียน และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน โดยการประเมินจากแบบฝึกหัด แบบทดสอบ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำในห้อง และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน